เส้นฟอกเลือดถาวร
เส้นฟอกเลือดถาวรมีด้วยกันสองชนิดได้แก่
- A-V fistula เป็นเส้นฟอกเลือดที่เกิดจากการต่อเส้นเลือดดำเข้ากับเส้นเลือดแดง และรอให้เส้นเลือดดำเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผนังเส้นเลือด จนเส้นเลือดดำมีการหนาตัวและโตมากขึ้น จนสามารถแทงเส้นเพื่อทำการฟอกเลือดได้ มีการเรียกชื่อของ AVF ตามตำแหน่งของทางกายภาพของร่างกายเช่น AVF ที่แขนซ้ายส่วนล่าง AVF ที่แขนซ้ายส่วนล่าง AVF ที่ข้อมือขวา เป็นต้น (ภาพ ก)
- A-V graft เป็นเส้นฟอกเลือดที่เกิดจากการนำเส้นเลือดที่ไม่ใช่เส้นเลือดของผู้ป่วยมาต่อเข้ากับเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำและใช้เส้นเลือดนี้ในการฟอกเลือด ในอดีตมีการนำเส้นเลือดจากสัตว์เช่น วัว มาต่อเป็น AVG ให้แก่ผู้ป่วยเรียก AVG ชนิดนี้ว่า “Biograft” แต่ในปัจจุบันจะใช้ท่อพลาสติดเช่น PTFE หรือ Dacron มาต่อเป็น AVG เรียก AVG ชนิดนี้ว่า “Prosthetic AVG” ได้ มีการเรียกชื่อของ AVG ตามตำแหน่งของทางกายภาพของร่างกายเช่น AVG ที่แขนซ้ายส่วนล่าง เป็นต้น ปัจจุบัน PTFE(polytetrafluoroethylene) เป็นท่อพลาสติกที่มีการใช้บ่อยมากที่สุด (ภาพ ข)
ภาพ
ก ภาพ ข
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังทุกรายไม่ว่าจะเลือกวิธีการบำบัดทดแทนไตด้วยการฟอกเลือด
หรือเลือกวิธีอื่น ควรได้รับการประเมินและดูแลเส้นเลือดดำที่แขนทั้งสองข้าง ในที่นี้จะเรียกว่าการถนอมเส้นเลือดดำ (vein preservation) เพื่อใช้ทำเป็นเส้นฟอกเลือดในอนาคต
แม้ว่าผู้ป่วยจะไม่เลือกวิธีการฟอกเลือด แต่ในอนาคตถ้าผู้ป่วยเลือกปลูกถ่ายไต
และถ้าการปลูกถ่ายไตไม่สำเร็จ หรือไตที่ปลูกถ่ายมีการทำงานลดลงเรื่อยๆ
ก็อาจต้องเปลี่ยนมาทำการฟอกเลือด หรือถ้าเลือกวิธีการล้างไตทางช่องท้อง
แต่มีปัญหาทางเทคนิคทำให้การล้างไตทางช่องท้องไม่ได้
ก็ต้องกลับมาเลือกวิธีการฟอกเลือดเช่นเดียวกัน ในขณะที่เลือกวิธีการทดแทนไตวิธีอื่น
ไม่ต้องทำเส้นฟอกเลือดเพื่อ back-up
เนื่องจากผู้ป่วยที่เลือกวิธีอื่นจะมีโอกาสได้ใช้เส้นฟอกเลือดเพียงร้อยละ 10
ทำให้สูญเสียเส้นเลือดดำโดยไม่จำเป็น
และเส้นฟอกเลือดที่ทำไว้ก็มักจะอุดตันก่อนที่จะได้ใช้
ผู้ป่วยที่เลือกวิธีการฟอกเลือด
ควรได้รับการทำเส้นฟอกเลือดชนิด AVF หรือ AVG เมื่อผู้ป่วยย่างเข้าระยะที่
4 หรือ 5 ของโรคไต
(การทำงานของไตน้อยกว่าร้อยละ 30) และควรได้มีโอกาสพบศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญในการทำเส้นฟอกเลือดภายในระยะเวลา
6-12 เดือน หรือมากกว่านั้นก่อนเริ่มทำการฟอกเลือด ถ้าเลือก AVF ต้องเผื่อเวลารอให้มีการโตของเส้นเลือดดำ
และเผื่อเวลาที่ต้องการทำการผ่าตัดใหม่ถ้าการผ่าตัดครั้งแรกไม่สำเร็จซึ่งพบได้บ่อยสำหรับการทำ
AVF
โดยทั่วไปแล้วเส้นเลือดชนิด
AVF มีอุบัติการณ์ในการติดเชื้อและอุดตันต่ำกว่าเส้นเลือดชนิด AVG และแม้ว่าสามารถแก้ไขการอุดตันของเส้นเลือดชนิด AVG ได้
แต่ผลการแก้ไขในระยะยาวจะไม่ดี ทำให้ต้องรับการแก้ไขบ่อยกว่าเส้นเลือดชนิด AVF ที่สำคัญผู้ป่วยที่ฟอกเลือดด้วย AVG รวมทั้งผู้ป่วยที่ฟอกเลือดด้วยสายฟอกเลือด
มีอัตราการตายสูงกว่าการฟอกเลือดด้วยเส้นฟอกเลือดชนิด AVF
สำหรับผู้ป่วยที่เริ่มการการฟอกเลือดด้วยสายฟอกเลือดและเกิดโรคแทรกซ้อนจากสายฟอกเลือดที่อาจทำให้เสียชีวิตได้
และการทำเส้นฟอกเลือดชนิด AVF
ในครั้งแรกยังไม่สำเร็จ ในกรณีนี้อาจจะต้องเลือกทำเส้นฟอกเลือดชนิด AVG
เนื่องจากระยะเวลาที่จะทำเส้นฟอกเลือดชนิด AVF ใหม่ให้ใช้งานได้อาจต้องใช้ระยะเวลานานในการโตของเส้น ข้อดีของเส้นฟอกเลือดชนิด AVG อีกข้อคือเมื่อสร้างแล้วสามารถใช้งานได้ค่อนข้างแน่นอน
คือมีอัตราความล้มเหลวในช่วงแรกต่ำมากแต่มีข้อเสียคือมีอัตราการอุดตันสูงในระยะยาวคือ
ร้อยละ 20-60 ภายในปีแรก และร้อยละ 40 ภายในสองปี
ข้อมูลดัดแปลงจาก
Hemodialysis
vascular access อ กำธรลีลามะลิ ใน Clinical Dialysis พย 2550 (พิมพ์ครั้งที่ 1)
Email: treamtrakanpon@yahoo.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น