วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ควรมาฟอกเลือด 2 ครั้งหรือ 3 ครั้งดี



ความถี่ของการฟอกเลือด
            คำถามที่พบบ่อยว่าทำไมผู้ให้บริการจึงแนะนำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการฟอกเลือดมาฟอกเลือดสามครั้ง ทั้งที่คนรู้จักที่ฟอกเลือดเหมือนกันบางรายอาจทำแค่สองครั้ง ความจริงเป็นเช่นไร ผู้ป่วยควรได้รับการฟอกเลือดกี่ครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์ เรามาหาคำตอบกันครับ
 
            ตามมาตรฐานการฟอกไตของสมาคมโรคไตและมาตรฐานสากล (KDOQI) ปริมาณความพอเพียงของการฟอกเลือด (Adequacy) หรือถ้าดูจากค่าแลปจะใช้คำว่า SpKt/V ควรมากกว่า 1.2 สำหรับความถี่ของการฟอก 3ครั้ง   แต่พออนุโลมได้ถ้ามากกว่า 2.1  สำหรับความถี่การฟอก 2 ครั้ง   ปริมาณความพอเพียงของการฟอกเลือดนั้นถูกวัดในรูปการขจัดของเสียโดยคำนวณจากระดับของเสียในเลือดที่ลดลงในหน่วยมาตรฐานเวลาของการรักษา ซึ่งทางหน่วยไตเทียมที่ให้บริการสามารถตรวจให้ได้ โดยปกติจะตรวจทุกสามเดือน ผู้ป่วยสามารถขอทราบค่าเหล่านี้จากหน่วยไตเทียมที่ท่านรับบริการอยู่
            สำหรับรายที่ค่าความพอเพียงของการฟอกเลือดไม่ถึงเกณฑ์ ควรได้รับการฟอกเลือดถี่ขึ้น เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ต้องการปลูกถ่ายไตควรฟอกเลือดให้เพียงพอเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ   สำหรับรายที่ค่าความพอเพียงของการฟอกเลือดอยู่ในเกณฑ์แล้วแต่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักมามากในแต่ละครั้งไม่สามารถดึงน้ำออกได้หมดหรือมีปัญหาความดันโลหิตตกขณะฟอกเลือดเป็นประจำที่มีสาเหตุจากหัวใจทำงานผิดปกติควรได้รับการฟอกเลือดถี่ขึ้นเพื่อดึงน้ำออกให้หมดทำให้ผู้ป่วยหายอึดอัดและลดภาวะแทรกซ้อนขณะฟอกเลือดได้
            สำหรับสิทธิ์การฟอกเลือดนั้น สิทธิ์บัตรทองและสิทธิ์เบิกได้ (ข้าราชการ) สามารถรับการฟอกเลือดได้ถี่กว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ และอายุรแพทย์โรคไตได้ลงความเห็นว่าให้ทำด้วยเหตุผลอะไร สำหรับสิทธิ์ประกันสังคมไม่สามารถรับการฟอกเลือดได้ถี่เกินกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ (4 ครั้งขึ้นไป) ส่วนเกินต้องชำระเงินเองครับ
            ในรายที่มีปัญหาค่าความพอเพียงของการฟอกเลือดไม่ถึงเกณฑ์  แต่ติดปัญหาเรื่องการเดินทาง ไม่สามารถมารับการฟอกเลือดสามครั้งได้ ถ้าเริ่มมีอาการเหนื่อยง่าย ทำงานไม่กระฉับกระเฉง หรือมีอาการบวมขึ้น ร่วมกับตรวจพบค่าแลปตัวอื่นผิดปกติ แสดงว่าการทำสองครั้งนั้นไม่เพียงพอสำหรับท่าน อาจต้องมาคิดใหม่ว่าการทำสามครั้งอาจจะคุ้มกว่า
            อย่างไรก็ดี ความพอเพียงของการฟอกเลือดเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตได้ แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆที่มีผลด้วยได้แก่ ภาวะโภชนาการ ภาวะซีด ภาวะติดเชื้อ ภาวะฟอสเฟตในเลือดสูง โรคประจำตัวอื่นของผู้ป่วยโดยเฉพาะโรคเบาหวาน เป็นต้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วผู้ป่วยควรดูแลตัวเองให้มากขึ้น สามารถติดตามเนื้อหาในบทความอื่นใน bloggang เดียวกันครับ
Email: treamtrakanpon@yahoo.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น